วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ท่องเที่ยวเมียนมาร์สักการ 3 ใน 5 สิ่งศักสิทธิ์ของประเทศพม่า

ทัวร์พม่า

สรรเสริญพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมสารีริกธาตุรายปีกำเนิดของปีม้า สักการพระบรมสารีริกธาตุมุเตา เยอะที่สุดของเมียนมาร์ ไหว้พระธาตุอินทร์ห้อย พระบรมสารีริกธาตุรายปีกำเนิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าเกิดจะกล่าวถึงการไปท่องเที่ยวประเทศพม่าแล้ว อาจจะไม่มีผู้ใดไม่เอ่ยถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ประจำเมืองเมียนมาร์ ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวประเทศพม่า ทั้งคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวประเทศพม่าต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่โบราณกว่า 2,000 ปี เป็นที่ติดตั้งพระเกศธาตุ 8 เส้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วก็มีความใหญ่โตยอดเยี่ยม โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งเป็นผลมาจากแรงเลื่อมใสของชาวเมียนมาร์ ด้วยกันบริจาคเงินทองทรัพย์สิน ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้เผยเป็นแผ่นเรียงต่อกันหุ้มห่อตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 โลอย่างยิ่งจริงๆ ทำให้เจดีย์ที่นี้ มีสีทองสัมฤทธิ์งาม เปล่งแสงให้มองเห็นตอนกลางวันช่วงเวลากลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกตกแต่งไปด้วยอัญมณีอันเลอค่า ฉายแสงระยิบมองเห็นมาแต่ไกล ผู้คนที่มาท่องเที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการที่จะมาชื่นชอบความสวยสดงดงามของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว จำต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานและก็กราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานประสบผลสำเร็จ หรือ ลานอธิษฐาน เพราะเหตุว่ามั่นใจว่าจะประสบผลสำเร็จจากที่มุ่งหมาย ต่อด้วยการรดน้ำพระทุกวันกำเนิด ที่ตั้งอยู่อีกทั้งแปดด้านรอบองค์เจดีย์ แล้วก็มีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้ไหว้ขอพร
2. พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ท่องเที่ยวเมียนมาร์ดูความสวยสดงดงามของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวเมียนมาร์กันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีดูความสวยงามในแบบอย่างมอญกันบ้างที่ พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุดั้งเดิมกว่า 2,000 ปี และก็ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศพม่าอีกด้วย ด้านในเจดีย์ใส่พระเกศธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่ยุคมอญเรืองอำนาจ ทำให้แบบที่มองเห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ด้านในเป็นก้อนอิฐกลวง โดยมีความหมายทางประวัติศาสตร์เป็น ใช้เป็นที่ทำพิธีเจาะพระหูของพระผู้เป็นเจ้าตะโกนชะเวตี้เมื่อครั้งท่านขึ้นครองราชย์ใหม่ๆถัดมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วมได้สร้างฉัตรมอบให้เพิ่มเติมหลายชั้น พูดกันว่าก่อนที่จะท่านจะออกทำศึกสงครามเมื่อใด จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกคราว และก็สมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งเคลื่อนพลมาตีหงสาวดี ก็ได้เสด็จมานมัสการในที่ที่นี้ด้วยเหมือนกัน ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้กำเนิดแผ่นดินไหวหลายคราว และก็ครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะและก็นำเสนอซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาท่องเที่ยวประเทศพม่าได้สักการคู่กันกับองค์ปัจจุบันนี้ ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยกรรมวิธีการอธิษฐาน ให้เอามือและก็หน้าผากแตะต้องไปที่พระบรมสารีริกธาตุองค์เดิมที่หัก และก็อธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสำเร็จผล
3. พระบรมสารีริกธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจครั้งโย
พระบรมธาตุอินทร์ห้อย หรือ ไจครั้งโย ในภาษามอญ มีความหมายว่า หินรูปหัวฤษี เป็นหินที่เลื่อมใส มีลักษณะเป็นหินสีทองคำขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตัน ตั้งอยู่บนผาชัน ถ้าเกิดมองดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกผา แถมผายังลาดลงต่ำ ทำให้ดูเหมือนกับว่าหินวางอยู่อย่างล่อแหลม เสมือนจะตกลงมา แต่ตั้งสูงเด่นบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแต่น้อยนิด ไม่กลัวต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่อย่างใด เหมือนกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ ก็เลยได้เรียกกันว่า พระบรมธาตุอินทร์ห้อย นอกเหนือจากนี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระผมแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระบรมสารีริกธาตุรายปีหน้าจอ ที่คนกำเนิดปีนี้จำต้องท่องเที่ยวประเทศพม่า เพื่อไปนมัสการสักหนึ่งครั้งหนึ่งในชีวิต เช้าใจกันว่า หากใครกันแน่ได้มานมัสการพระบรมธาตุอินทร์ห้อยนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ว่าความสบายความเจริญรุ่งเรือง และขอสิ่งใดก็จะได้สมดุจประสงค์ทุกสิ่ง

ทัวร์พม่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น